สวัสดีครับเพื่อนๆ นักการตลาด วันนี้ผมมีโอกาสได้มาพูดคุยกับคุณโอ้ กิตติโชค วีระเตชะ CEO บริษัท FEEL Agency ที่มี Methodology ในการสร้างสรรค์ไอเดียทางการตลาดที่ไม่ใช่แค่น่าสนใจ แต่ยังสามารถตอบโจทย์และแก้ปัญหาทางธุรกิจได้อีกด้วย ลองมาทำความรู้จัก FEEL Agency กันดูนะครับว่าแนวทางการทำงานของเค้าเป็นอย่างไร และเราจะเอาไปประยุกต์ใช้กับการทำธุรกิจเราได้อย่างไรบ้างครับ
FEEL Agency เป็นใคร อยากให้คุณโอ้ช่วยแนะนำตัวเองให้เพื่อนๆ ในการตลาดวันละตอนได้รู้จักหน่อยครับ
ผมเข้ามาในโลก Online Marketing ค่อนข้างไว คลุกคลีกับการทำการตลาดออนไลน์ มาตั้งแต่สมัยก่อนมีเฟสบุ๊คเสียอีก เลยมีโอกาสฝึกฝนวิธีคิดในทิศทางออนไลน์มาค่อนข้างเยอะครับ แรกๆก็เลยเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทเพื่อนๆและคนรอบข้างนี่แหละครับ พอช่วยและเห็นผล มันก็เกิดการบอกต่อขึ้นมา เลยมีคนเข้ามาให้ช่วยอยู่บ่อยๆ FEEL จึงกำเนิดขึ้นมาครับ
FEEL (THAILAND) COMPANY LIMITED เป็น Agency และ Consulting company ครับ เราโตขึ้นมาจากความต้องการของคนรอบข้างเลยครับ พอดีคนรู้จักของพวกเราอยู่ในแวดวงธุรกิจกันค่อนข้างเยอะ ตั้งแต่ เจ้าของธุรกิจ SMEs จนถึงบริษัทใหญ่ๆ เค้าชอบมาบ่นให้เราฟังครับ ว่าการทำการตลาด การหาเอเจนซี่ที่ถูกใจนี่ยากเหมือนหาคู่เลย ต้องเปลี่ยนเอเจนซี่กันบ่อยมาก กลุ่ม SMEs ก็จะบ่นว่า จะทำการตลาดเองก็ทำไม่เป็น จะจ้างเอเจนซี่ก็ยังงง ๆ และไม่พร้อมถึงขนาดนั้น
บริษัทเราอายุน้อยมากครับ ประมาณ 3 ปี แต่เราก็เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด ด้วยการบอกต่อจากลูกค้าของเราไปเรื่อย ๆ จนได้รับความไว้วางใจในงานสเกลใหญ่ขึ้น เช่นการวิจัยทำแบรนดิ้งของจังหวัดพัทลุง การทำการตลาดให้กับสินค้า XIAOMI (เสียวหมี่ ประเทศไทย) เราทำหลายรุ่นหลายชนิดมาก ทำมาตั้งแต่เสียวหมี่เริ่มเข้าไทยใหม่ ๆ ยังไม่มีคนรู้จักเลยครับ จนตอนนี้เสียวหมี่เป็นสินค้าที่แทบจะมีอยู่ในทุกบ้านเลยครับ
Methodology ของ FEEL Agency คืออะไรที่ทำให้แตกต่างจาก Agency มากมายในตลาด
เราเชื่อนะครับ ว่าสิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุดในการทำ Marketing คือการรู้จักตัวเอง และรู้จักลูกค้าของเราให้มากที่สุด ถ้าเราตีโจทย์ตรงนี้ไม่แตก ก็จะลำบากมากในการทำงาน ปัญหาที่เราเจอบ่อยมากๆ เวลาให้คำปรึกษากับลูกค้าของเราก็คือ เจ้าของแบรนด์ไม่สามารถตอบได้ชัดเจนครับว่า “ลูกค้าจริงๆ ของเค้าคือใคร?” และที่มากไปกว่าลูกค้าคือใคร เรายังต้องมองกว้างขึ้นไปอีกคือคนที่น่าจะมีโอกาสเป็นลูกค้าของเราได้คือใครอีกบ้าง ทาง FEEL จะให้ความสำคัญกับเรื่องพื้นฐานเหล่านี้มาก เรามองว่า Data เหล่านี้เหมือนเสาเข็มที่ควรจะมีก่อนที่จะเริ่มวาง Strategy ทั้งหมด ถ้ามันยังไม่แน่นไม่มั่นคงพอ อย่าเพิ่งรีบต่อเติมส่วนอื่นๆ
บริษัท FEEL ดีไซน์ วิธีรวบรวม Data เหล่านี้ขึ้นมา เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าก่อนจะวาง Strategy กันครับ เราเรียกมันว่า PCA หรือ “Potential Customer Avatar” ซึ่งเราจะดึงข้อมูลบนโลก Online รวมถึงเก็บข้อมูล Offline ด้วยโปรแกรมที่เราดีไซน์ขึ้นมา จึงเหมือนเป็นการทำสำรวจกับกลุ่มคนหลักแสนหลักล้านคน และนำ Data มา Visualize ภาพกลุ่มผู้คนที่น่าจะมีโอกาสเป็นลูกค้าขึ้นมาให้ดูกันก่อนเลยครับ และที่สำคัญข้อมูล PCA เหล่านี้มาจาก Data ล้วนๆ โดยที่ไม่ต้องจินตนาการกันเหมือนแต่ก่อนเลยครับ
การทำ Research ตรงนี้จะทำให้เรารู้ลึกไปถึงว่า PCA กลุ่มนี้ให้ค่ากับสินค้าและบริการของเราในด้านไหนหรือสนใจใน Key Selling Points ไหนของเรามากที่สุด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราดีไซน์แคมเปญและวิธีการสื่อสารต่างๆ ได้ตรงใจลูกค้าเราได้มากที่สุด การพูดในสิ่งที่เค้าเห็นค่าและพูดในสิ่งที่คนฟังอยากจะฟังอันนี้สำคัญมากครับ และมากไปกว่านั้น ยังสามารถช่วยในการประหยัดงบในการยิง Ads ในระยะยาวได้อีกด้วย
ช่วยแชร์ Case Study จากการใช้ PCA หรือ Potential Customer Avatar ของ FEEL Agency ให้กับลูกค้าจนประสบความสำเร็จให้เราฟังสักหน่อยได้ไหมครับ
PCA ถือเป็นทรัพย์สินหนึ่งของลูกค้าของเราเลยครับ อาจจะไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกได้ทั้งหมด แต่เรามีบางเคสที่สามารถยกมาเปิดเผยได้ เนื่องจากเป็นข้อมูลการวิจัยของประเทศ ทำวิจัยขึ้นมาเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนทั่วไป ซึ่งทาง FEEL ร่วมกับ อ.ดร.ณัฐพงศ์ พันธ์น้อยและทีมจาก คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ภายใต้การสนับสนุนทุนโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ในโปรเจค การสร้างแบรนด์ของเมือง เพื่อการพัฒนาเมืองท่องเที่ยวในจังหวัดพัทลุง
พัทลุงเป็นจังหวัดที่น่าสนใจมากครับ มีแหล่งท่องเที่ยวเจ๋ง ๆ เยอะเลย ถ้าเปรียบเป็นสินค้า ก็คงเรียกได้ว่ามี Key Selling Points ค่อนข้างเยอะ หลักสิบหลักร้อยเลยทีเดียว PCA เลยมีบทบาทช่วยเราตรงนี้ครับ เราสามารถระบุได้เลยว่าถ้าจะโปรโมทพัทลุงให้กับกลุ่มวัย Gen Y Gen Z ต้องเลือกแหล่งท่องเที่ยวแบบไหนมาคุยกับลูกค้ากลุ่มนี้ดี หรือจัดทริปให้กับคนกลุ่มนี้ต้องเลือกสถานที่ไหนมารวมกันบ้าง ถึงทำให้เค้าติดใจและอยากบอกต่อ ทั้งยังลงลึกไปถึงงบประมาณที่เค้าพอใจจะจ่ายด้วย
เวลาคุยกับคนวัยนี้ถ้าเราเข้าไปคุยกับเค้าผิดเรื่องผิดภาษา เค้าอาจจะทำหน้างงกับเราทันที PCA เลยเข้ามาทำงานตรงนี้ครับ ในอีกทางเราจะเห็นข้อมูลค่อนข้างชัดครับว่าวัยไหนชอบสถานที่หรือกิจกรรมแบบไหนในพัทลุง และเราสามารถนำข้อมูลนี้มาพัฒนาเมืองให้เหมาะสมกับกลุ่มนักท่องเที่ยวได้ดีมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่ง มีกลุ่มคุณพ่อคุณแม่ผู้สูงอายุสนใจเยอะมาก แต่สถานที่ยังไม่ค่อยพร้อม ทางเดินยังลำบากมากอยู่ ดูลุยมากเกินไปสำหรับกลุ่มนี้ เราก็จะสามารถดีไซน์หรือปรับสถานที่นั้นๆ ให้เหมาะกับผู้ท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้นต่อไป
ภาพรวมของทรัพยากรการท่องเที่ยวในจังหวัดพัทลุงที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว
มีอีกเคสที่น่าสนใจครับ เราทำ PCAให้กับ น้ำผักผลไม้สกัดเย็น BEEP เริ่มแรกที่เราดูแลแบรนด์นี้ปัญหาหลักของเราเลยก็คือ เค้ามีจุดแข็งเยอะมาก มีเรื่องให้เล่าเยอะมาก Key Selling Points เต็มไปหมด ถ้าพูดให้ครบทุกเรื่องน่าจะต้องเปลืองค่า Ads กันมากมายแน่นอน แต่หลังจากเราเข้ากระบวนการหา Potential Customer Avatar เราพบข้อมูลตัวหนึ่งที่มีนัยสำคัญมาก ๆ โดยกลุ่ม PCA ที่หาขึ้นมาได้ให้ความสนใจในจุดแข็งหนึ่งของแบรนด์มากกว่าจุดแข็งอื่น ๆ ค่อนข้างมาก คือ “BEEP มีกระบวนการการผลิตที่ใช้นวัตกรรม High Pressure Processing” ซึ่งเป็นการฆ่าเชื้อแบบไม่ผ่านความร้อนแต่ใช้แรงดันของน้ำมาทำการฆ่าเชื้อโรค และจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ แทนความร้อน โดยไม่ทำลายสารอาหาร จึงทำให้น้ำผักผลไม้ BEEP สามารถคงคุณค่าทางโภชนาการได้อย่างครบถ้วน และยังสามารถเก็บในตู้เย็นได้นานกว่าน้ำผลไม้สกัดเย็นปรกติได้หลายเท่าตัว
ข้อมูลที่เราได้จากการ Research นี้ จึงทำให้เรานำมาต่อยอดและครีเอท Tagline ใหม่ สร้าง Segment ใหม่ของน้ำผลไม้ Cold-Pressed ขึ้นมาว่า “HPP Cold-Pressed” และเราได้สื่อสารให้กับลูกค้ากลุ่มที่ทานน้ำผลไม้สกัดเย็นอยู่แล้วให้รู้จักน้ำผลไม้สกัดเย็นอีกระดับ ที่เรียกว่า “HPP Cold-Pressed” ผ่านแคมเปญ “Secret from the deep” ทำให้ BEEP เป็นแบรนด์น้ำผลไม้สกัดเย็นรายแรกที่ริเริ่มใช้คำว่า “HPP Cold-pressed” เป็นตัวชูจุดขาย ซึ่งแคมเปญนี้ทำให้ยอดขายของ BEEP กระโดดขึ้นหลายเท่าตัวในระยะเวลาไม่กี่เดือน และ HPP Cold-Pressed ก็กลายเป็น Segment น้ำผักผลไม้สกัดเย็นใหม่ล่าสุด ที่กำลังร้อนแรงและมีผู้เล่นอีกหลายเจ้ากำลังตามเข้ามาใน Segment นี้
ในฐานะที่ FEEL Agency สร้าง Branding และวาง Positioning ให้กับลูกค้ามากมาย แล้วมีการวาง Positioning Company ของตัวเองไว้อย่างไรในวันที่ Agency มีให้ลูกค้าเลือกมากมายในวันนี้
เราเริ่มจากสิ่งที่เราเชื่อว่าดี นั่นก็คือ “เราชอบเถียงกับลูกค้าครับ” (หัวเราะ) การโต้แย้งและชักชวนกันสร้างสมมุติฐานเพื่อหาคำตอบที่ดีที่สุดของแบรนด์ เป็นเหมือนการร่วมมือกันระหว่างเรากับเจ้าของแบรนด์ ปั้นแบรนด์ของเค้าออกมาให้เหมาะสมและดีที่สุด เราเป็นบริษัทเล็กๆ ที่มีประสบการณ์กับแบรนด์ใหญ่ๆ ทั้งระดับประเทศและระดับโลก เราเป็นทั้ง Consult Company และ Agency ในที่เดียวกันครับ บริษัทเรารวมคนมีความสามารถจากหลายแวดวงธุรกิจมาทำงานร่วมกันครับ ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้เลยค่อนข้างจะขยายไปได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เราสามารถให้คำแนะนำในเรื่องการทำธุรกิจได้มากกว่าแค่การตลาดเพียงมุมเดียว เราจะเน้นให้ลูกค้าเตรียมตัวเองให้พร้อมก่อนเริ่มทำการตลาด เราอยากช่วยให้ลูกค้าของเรามองภาพใหญ่ออกได้ชัดเจนและแก้ปัญหาในภาพเล็กได้ตรงจุดครับ การทำการตลาดหรือการโฆษณาเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดเสมอไปครับ
จากประสบการณ์ที่เราเจอมาบ่อยมาก โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและเล็ก เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่มักจะเน้นและเริ่มต้นด้วยการอยากโปรโมท อยากยิง Ads อยากทำให้มีลูกค้ามากๆ แต่หลายเจ้าพอมีลูกค้าเข้ามามากแล้วกลับไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทันท่วงที หรือสินค้า/บริการอาจจะยังไม่ดีพอ ทำให้ลูกค้าที่เข้ามาแล้วไม่พอใจและจากไป ปัญหาเหล่านี้ให้โทษกับธุรกิจรุนแรงมากนะครับ การง้อลูกค้าเดิมให้กลับมาใหม่อีกที มันยากและแพงกว่ามาก
คุยกันมายาวได้อะไรก็เยอะ ผมอยากให้คุณโอ้ ในฐานะ CEO ของ FEEL Agency ช่วยฝากอะไรทิ้งท้ายเป็นสรุปปิดให้กับเพื่อน ๆ ในการตลาดวันละตอนที่กำลังอ่านอยู่หน่อยครับ
ศาสตร์ของการใช้ Data เพื่อนำมาใช้ในการทำการตลาด เป็นเรื่องที่นักการตลาดทุกคนให้ความสนใจเป็นอย่างมากในปัจจุบัน แต่อยากฝากว่าไม่อยากให้ทิ้งการใช้ ศิลป์ สัญชาตญาณ และประสบการณ์ ที่นักการตลาดทุกคนมีติดตัว และต้องหมั่นลับให้แหลมคมอยู่เรื่อยๆนะครับ เพราะว่าถ้าเราสามารถนำทั้งศาสตร์และศิลป์มารวมกันในการทำงานได้ ผมเชื่อว่าจะสามารถพาให้เราไปเจอกับเส้นทางใหม่ๆ ที่จะช่วยสร้างผลงานทางการตลาดได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดกันเลยทีเดียว
สุดท้ายนี้การตลาดวันละตอนขอบคุณคุณโอ้ และ FEEL Agency มากครับ ที่เอาความรู้ดีๆ มาแชร์กัน ทั้ง Methodology ที่เป็นหัวใจสำคัญ ทั้ง Case Study ดีๆ ที่หาได้ยากยิ่งในเมืองไทย ใครกำลังสนใจและมองหา Agency ดีไปร่วมงาน ลองติดต่อ FEEL Agency ไปนะครับเผื่อว่าคุยกันแล้วจะถูกใจ
ที่มา การตลาดวันละตอน
Comments